พล.ต.ต. มานะ อินพิทักษ์
ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
Content : 50
เว็บลิงก์ : 43
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 53271
.......เนื้อหาไม่เหมาะสม
- __________________________
.......คู่มือใช้สังคมออนไลน์อย่างสร้างสรรค์
- __________________________
.......เกี่ยวกับธุรกิจการรักษาความปลอดภัย
- __________________________
.......ศูนย์กลางภาครัฐ
- __________________________
.......สมุดภาพ รัฐบาล
- __________________________
.......พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
- __________________________
.......ประมวลจริยธรรมจรรยาบรรณตำรวจ
ประวัติและสถานที่ท่องเที่ยว
จังหวัดสมุทรสาคร
มีเนื้อที่ 851 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว อาณาเขตทิศเหนือติดต่อจังหวัดนครปฐม ทิศใต้ติดต่ออ่าวไทย ทิศตะวันออกติดต่อกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ
ทิศตะวันตกติดต่อจังหวัดสมุทรสงครามและราชบุรี
สมุทรสาคร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "มหาชัย" เป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่บนปากน้ำท่าจีน ห่างจากทะเลเพียง 2 กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมและการประมง เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำทะเล จึงมีการประกอบอาชีพด้านการประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมงที่ทันสมัยกว่า 1,000 ลำ ปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ในแต่ละปี นับได้ว่าอยู่ในอันดับหนึ่งของประเทศ อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีนาเกลือมากที่สุดด้วย และในอดีตยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา เมื่อคราวพระเจ้าเสือเสด็จประพาสทางชลมารค
สมุทรสาคร เดิมเรียกกันว่า "ท่าจีน" เพราะเป็นตำบลใหญ่อยู่ติดอ่าวไทย มีชาวต่างประเทศโดยเฉพาะชาวจีนนำสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายกันมาก จึงเรียกติดปากว่า "ท่าจีน" จนกลายเป็นชื่อตำบล ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2091 ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิโปรดให้สร้างเมืองใหม่ขึ้นอีกหลายเมือง ด้วยมีพระราชประสงค์จะใช้เป็นที่ระดมพลสำหรับสู้รบกับพม่า บ้านท่าจีนจึงยกฐานะเป็นเมือง "สาครบุรี" ตั้งแต่นั้นมา จนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้เปลี่ยนชื่อเมืองสาครบุรีเป็นเมืองสมุทรสาคร ครั้นถึงรัชสมัยของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงปฏิรูปการปกครอง มีการจัดระบบราชการส่วนภูมิภาคเป็นมณฑล เทศาภิบาล และมีการประกาศจัดตั้งสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทยขึ้นที่ตำบลท่าฉลอม เมื่อปี พ.ศ. 2449 ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินตำบลท่าฉลอมถึงสองครั้ง ต่อมาใน พ.ศ. 2456 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการให้ทางราชการเปลี่ยนคำว่า "เมือง" เป็น "จังหวัด" ทั่วทุกแห่ง เมืองสมุทรสาคร จึงได้เปลี่ยนเป็น "จังหวัดสมุทรสาคร" มาจนทุกวันนี้ ส่วนคำว่า "มหาชัย" ที่คนชอบเรียกกันนั้น เป็นชื่อของคลองที่ขุดขึ้นเพื่อตัดความคดเคี้ยวของคลองโคกขามแต่เดิม มาทะลุออกตัวเมืองท่าจีน
การเดินทางไปสมุทรสาครจากกรุงเทพฯ โดยเส้นทางรถยนต์ตามทางหลวงแผ่นดินสามารถไปได้หลายเส้นทาง ดังนี้
จากสามแยกบางปะแก้ว ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถนนธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระรามที่ 2) ผ่านที่ทำการเขตบางขุนเทียน ด่านชั่งน้ำหนักเอกชัย ถึงสี่แยกมหาชัย (กิโลเมตรที่ 28) เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังสามารถแยกจากถนนธนบุรี-ปากท่อ ที่กิโลเมตรที่ 34 ถึงที่ว่าการอำเภอบ้านแพ้ว ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
จากศูนย์การค้าดาวคะนองไปตามถนนเอกชัย ผ่านสะพานบางขุนเทียน วัดสิงห์ แยกบางบอน โรงเรียนศึกษานารีวิทยา วัดโพธิ์แจ้ ตำบลดอกกระบือ ด่านชั่งน้ำหนักเอกชัย เคหะชุมชนมหาชัย เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
จากแยกท่าพระไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ถึงหนองแขมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 81 ถึงแยกถนนเอกชัย เลี้ยวขวาไปตามถนนเอกชัย ผ่านโรงเรียนศึกษานารีวิทยา ด่านชั่งน้ำหนักเอกชัย เข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม เลยบางแคแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวงแหวนรอบนอกจะไปตัดกับถนนเอกชัย วกรถกลับเข้าถนนเอกชัย หรือตรงไปเข้าถนนธนบุรี-ปากท่อก็ได้ หรือจากถนนเพชรเกษม ผ่านอ้อมน้อย แยกเข้าถนนเศรษฐกิจ 1 ที่กิโลเมตรที่ 25 ผ่านอำเภอกระทุ่มแบน ได้อีกเส้นทางหนึ่ง
จากสะพานพระปิ่นเกล้า ไปตามถนนบรมราชชนนี ตัดเข้าถนนเพชรเกษมได้ 3 ทาง คือ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 สาย 4 และสาย 5 จากนั้นเลือกเข้าตัวเมืองสมุทรสาครได้ 2 ทาง คือ จากสาย 2 ออกถนนเอกชัย เลี้ยวขวา ผ่านโรงเรียนศึกษานารี ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร หรือใช้สาย4 สาย 5 เข้าถนนเศรษฐกิจ 1 ที่แยกอ้อมน้อย ผ่านอำเภอกระทุ่มแบน ระยะประมาณ 50 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งตัดผ่านถนนเอกชัยและถนนธนบุรี-ปากท่อได้อีกด้วย
ทางรถประจำทาง บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-สมุทรสาคร ทุกวันตั้งแต่เวลา 04.30-21.30 น. จากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 435-1200, 434-7192
ทางรถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ทุกวันๆ ละหลายเที่ยว ตั้งแต่เวลา 05.30-20.00 น. สุดปลายทางสถานีมหาชัย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ โทร. 465-2017
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 034)
สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร 411-251, 411-012
ททท. สำนักงานภาคกลาง เขต 1 จ.กาญจนบุรี 511-200
ตำรวจท่องเที่ยว 1155
ตำรวจทางหลวง 425-360
สถานีตำรวจ 411-002
สถานีรถไฟ 411-003
ไปรษณีย์จังหวัด 422-806
รพ.สมุทรสาคร 427-099
รพ.กระทุ่มแบน 471-466
รพ.บ้านแพ้ว 481-266
สาธารณสุขจังหวัด 412-766
สถานที่ท่องเที่ยว
แหล่งผลิตเบญจรงค์ จังหวัดสมุทรสาคร เป็นแหล่งผลิตเบญจรงค์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะ ต.ดอนไก่ดี ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน ซึ่งมีการผลิตเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน เป็นของ ตกแต่งบ้าน และของที่ระลึก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากชาวไทย และชาวต่างประเทศ เส้นทางเข้าสู่แหล่งเบญจรงค์ จากทางหลวงสาย 35 (พระราม 2) แยกทางหลวงจังหวัดสาย 3091 (ถนนเศรษฐกิจ 1) ไปอำเภอกระทุ่มแบน เข้าซอยการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค ระยะทาง 1 กิโลเมตร
นากุ้งนาเกลือ ในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร มีชายฝั่งทะเลที่เหมาะกับการทำนากุ้ง นาเกลือ หลายแห่ง และได้ชื่อว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กาหลง นาโคก บ้านบ่อ บางโทรัด โคกขาม พันท้ายนรสิงห์ และบริเวณ สองข้างทางถนนสายธนบุรี-ปากท่อ มีนาเกลือและกองเกลือสีขาว มีกังหันวิดน้ำ เข้านาเกลือหมุนเล่นลม มีนกหลายชนิดบินผ่านไปมาเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม เส้นทางเข้าสู่นากุ้งนาเกลือใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 35 (พระราม 2) ไปจังหวัดสมุทรสงคราม ช่วง กม.ที่ 53 สองฝั่งถนนของ ต.นาโคก และ ต.บางโทรัด
บ้านปากคลองประมง เป็นชุมชนชาวประมงทะเลชายฝั่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.พันท้ายนรสิงห์ เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน ออกไปตามคลองประมง ระยะทาง 2.5 กม. จะเป็นดอนหอยแครง หอยแมลงภู่ และเป็นแหล่งตกปลา เส้นทางเข้าสู่บ้านปากคลองประมง นั่งเรือจาก ศาลพันท้ายนรสิงห์ ตามเส้นทางคลองสหกรณ์ สู่บ้านปากคลองประมง ระยะทาง 2.5 กม
วัดช่องลม หรือวัดสุทธิวาตวราราม ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวไทย มีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงาม มีลมทะเลตลอดทั้งวัน ในวิหารหลวงปู่แก้ว มีนกแอ่นกินรังอาศัยอยู่นับพันตัว สามารถศึกษาพฤติกรรมของนกเหล่านี้ได้ และภายใน บริเวณวัดยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่ หากหิวแวะไปบริเวณท่าน้ำหน้าวัด มีร้านอาหารทะเลและอาหารตามสั่ง เปิดบริการตั้งแต่ช่วงสายจนพลบค่ำ เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่ปากอ่าว จึงมีผู้นิยมมาลอยอังคารกันมาก ท่าน้ำหน้าวัดมีเรือประมงเล็กสองลำมารอให้บริการเช่าออกไปลอยอังคาร ในราคา 800 บาท แถมเครื่องเซ่นไหว้ของจีนที่เรียกว่า ซาแซ ซึ่งประกอบด้วยเนื้อสัตว์สามอย่าง เช่น เนื้อหมู ไก่ เป็ด
วัดราษฎร์ศรัทธากระยาราม ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว สิ่งที่น่าสนใจ นอกจากศาสนสถานแล้ว ตามสุมทุมพุ่มไม้ในวัด ยังเป็นที่อาศัยของ นกกาน้ำ นกกระยางขาว เป็นจำนวนมาก
ปากอ่าวมหาชัย ทัศนียภาพยามเย็นของปากอ่าวมหาชัย เป็นผืนน้ำกว้างใหญ่ มีแม่น้ำท่าจีนไหลออกสู่ทะเลบริเวณนี้ สภาพโดยรอบ เขียวครึ้มไปด้วยป่าชายเลน ในช่วงเย็นแดดร่มลมโชย จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการมาพักผ่อน หรือจะหาของทะเลอร่อย ๆ ตามร้านขนาดใหญ่แถว ๆ หน้าวัดกำพร้า ซึ่งมาเปิดบริการอยู่หลายเจ้า เช่น ร้านอ่าวไทย (เกียง้วน 5) น้ำพริกปูไข่ ปลาทูต้มมะดัน ว่ากันว่าเป็นเมนูเด็กที่ไม่ควรพลาด เป็นร้านเก่าแก่จากที่เคยอยู่ในตลาดมหาชัย นอกจากนี้ก็มีร้านลานเท ร้านทองอยู่ใกล้กัน
ตลาดน้ำบ้านหลักห้า ใครที่สนใจมาเดินเที่ยวตลาดน้ำบ้านหลักห้าต้องมาแต่เช้าตรู่ เพราะเริ่มติดตลาดตั้งแต่ราวตี 5 เป็นต้นไป ประมาณ 8 โมงเช้าตลาดก็เริ่มวายแล้ว ที่นี่นับเป็นตลาดน้ำแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน ในคลองดำเนินสะดวกที่ยังเหลืออยู่ มีวิถีชีวิตประจำวันหลากหลาย เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืด พระสงฆ์องค์เจ้าพายเรือออกบิณฑบาต พร้อม ๆ กับพ่อค้าแม่ขายที่ขนของสวน ทั้งมะม่วง มะพร้าว พืชผักสวนครัวใส่เรือพายออกจากคลองเล็กคลองน้อยที่แยกย่อย จากคลองดำเนินสะดวก พ่อแม่ผู้ปกครองพายเรือส่งลูกหลานไปโรงเรียน มีเรือโดยสารวิ่งกันขวักไขว่ ทั้งเรือข้าวแกง เรือขายกาแฟ เรือขายเนื้อหมู ราว 7 โมงเช้า เป็นช่วงที่มีเรือออกมาจากสวนมากที่สุด ทั้งเรือของพ่อค้า แม่ขาย เรือของคนซื้อ
ตลาดหลักสาม เป็นตลาดในชุมชนริมน้ำที่เคยมีในสมัยที่มีการสัญจรทางน้ำเป็นหลัก มีอาคารบ้านเรือนริมน้ำให้เดินชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ตลาดแห่งนี้มีร้านรวง ในห้องแถวไม้แบบเก่า หันหน้าออกสู่คลองดำเนินสะดวก แม้บรรยากาศความคึกคักจะเทียบไม่ได้กับเมื่อหลายสิบปีก่อน บางร้าน ปิดตัวเองไป แต่ก็มีบางร้านที่ยังเปิดยอู่ อย่างร้านขายยาจีน ที่ภายในร้านยังคงตกแต่งแบบร้านเครื่องยาจีนโบราณ มีลิ้นชักเล็ก ๆ หลายสิบชั้น ติดเต็มผนัง สำหรับใส่เครื่องยาจีนต่าง ๆ มีตาชั่วไว้ชั่งน้ำหักยา และเครื่องหั่นยาจีนแบบโบราณที่ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ ร้านทองเป็นอีกร้านหนึ่งที่น่าสนใจแวะชม
ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีนฝั่งขวา ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวมหาชัย ฝั่งตะวันตก ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง สมุทรสาคร มีเนื้อที่ 3,179 ไร่ เหมาะสำหรับเป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า วิจัย ด้านธรรมชาติวิทยาของระบบนิเวศ ป่าชายเลน และปากแม่น้ำท่าจีน ปัจจุบันดำเนินการก่อตั้งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ป่าชายเลนมหาชัย
ดอนหอยแครง ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวมหาชัย ฝั่งตะวันตก ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร มีเนื้อที่ 1,752 ไร่ ซึ่งขออนุญาตเลี้ยงหอยแครง มาตั้งแต่ปี 2513 ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางเข้าสู่ ดอนหอยแครง ใช้ทางหลวงแผ่นดินสาย 35 (พระราม 2) ไปสมุทรสงคราม เลี้ยวซ้ายช่วง กม. 35 เข้าถนนสุทธิวาดวิถี เข้าถนนบางหญ้าแพรก สุดเส้นทาง บ้านหัวโพง ระยะทางประมาณ 7 กม.
วัดป่าชัยรังสี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ในท้องที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองสมุทรสาคร สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยรัชกาลที่ 2 สิ่งที่น่าสนใจสำหรับศาสนสถานแห่งนี้คือ รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณะเฉพาะตัวบนเนื้อที่ 200 ไร่ เหมาะแก่การไปเที่ยวชม ห่างจากตัวตำบลมหาชัย ไปตามเส้นทางถนนสายเศรษฐกิจ (มหาชัย - กระทุ่มแบน) ประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 (ตรงข้ามสถานีไฟฟ้าย่อย) เข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร
สวนผลไม้ ดอกไม้ ในเขตอำเภอกระทุ่มแบน และเขตอำเภอบ้านแพ้ว เกษตรกรทำสวน ทั้งสวนผลไม้ สวนผัก สวนกล้วยไม้ สวนมะพร้าว ในเขตอำเภอกระทุ่มแบน มีชื่อในการทำมะพร้าวน้ำหอม ส้มโอ และสวนกล้วยไม้ ในเขตอำเภอบ้านแพ้ว มีสวนอุ่น สวนฝรั่ง นอกจากจะชมสวนแล้ว ยังมีโอกาสชมการทำน้ำตาลมะพร้าว อีกด้วย
แหล่งดูนกชายเลนโคกขาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ปากอ่าวไทยตอนใน มีทั้งป่าชายเลน นากุ้ง นาเกลือ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำเล็ก ๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา แห่งอาหารของนกชายเลนนานาชนิด ที่นี่จึงเป็นแหล่งดูนกชายเลนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักดูนก ทั้งยังอยู่ใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปกลับในวันเดียวได้โดยสะดวก จุดดูนกในพื้นที่บ้านสหกรณ์มีหลายจุด เช่น บริเวณศาลพันท้ายนรสิงห์ หรือละแวกบ้านสันดาบ เป็นต้น รวมทั้งการล่องเรือช่วงปากคลองลงสู่ทะเล ไปจนถึงแถบชายทะเลกระซ้าขาวสุดเขตสมุทรสาคร ระยะทางประมาณ 30 กม. นอกจากนี้บางพื้นที่ ซึ่งรถยนต์เข้าไม่ถึง จะต้องใช้รถเล็ก ๆ ในการเดินทาง เช่น มอเตอร์ไซค์ นักท่องเที่ยวที่สนใจควรแวะที่ ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติโคกขาม หรือ Bird Center ก่อน ซึ่งพร้อมจะต้อนรับให้คำแนะนำและข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการดูนกแถบนี้ หรือจะกินอะไรรองท้อง ตระเตรียมเสบียงกรัง ที่นี่ก็มีอาหารตามสั่งบริการ ตั้งอยู่ภายในอาคารที่ทำการของนิคมสหกรณ์โคกขามหลังเก่า
วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร หลวงพ่อโตในวัดหลักสี่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวคลองดำเนิน สะดวกให้ความเคารพศรัทธามาหลายชั่วคน ในแต่ละปี จะมีงาน นมัสการหลวงพ่อโต ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ของที่นี่ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดงปางมารวิชัย สันนิษฐานว่าอยุ่ในสมัยอู่ทอง มีลักษณะเด่นที่พระพักตร์ค่อนข้างกลม มีพระขนงยาวติดกันเป็นปีกกา พระเนตรปูดโปน พระโอษฐ์เผยยิ้ม เล็กน้อย ประดิษฐานในวิหารหน้าวัด ซึ่งเป็นวิหารเปิดโล่งทั้งสี่ด้าน อยู่ติดกับคลองดำเนินสะดวก
ศาลพันท้ายนรสิงห์ ตั้งอยู่ ต.โคกขาม อ.เมือง จว.สมุทรสาคร ศาลนี้สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พันท้ายนรสิงห์ในคราวที่คัดท้ายเรือพระที่นั่งเอกชัยจนหัวเรือชนกิ่งไม้ใหญ่ริมคลองโคกขาม ทำให้โขนเรือหักลงในน้ำ พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมทูลพระเสือให้ประหารชีวิต พระเจ้าเสือฝืนพระทัยตามพระราชกำหนดที่วางไว้ จึงสั่งให้ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์ แล้วให้ทำศาลขึ้นสูงเพียงตาเป็นอนุสรณ์แสดงความซื่อสัตย์จงรักภักดี ต่อมากรมศิลปากรได้จัดสร้างศาลขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่พังลงมา ภายในศาลมีรูปปั้นพันท้ายนรสิงห์ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ เป็นที่นับถือของประชาชนเป็นอย่างมาก
*****************************
แก้ไขล่าสุด (วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2017 เวลา 01:54 น.)